รากฟันเทียม ทางเลือกใหม่
เพื่อฟันสวยงาม ติดแน่นเหมือนฟันจริง
เคยไหม? ต้องเจอกับปัญหาฟันหลุด ฟันหาย หรือฟันปลอมที่ไม่กระชับ ทำให้ขาดความมั่นใจและไม่สะดวกสบายในชีวิตประจำวัน วันนี้คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะ “รากฟันเทียม” คือนวัตกรรมที่ช่วยคืนรอยยิ้มและความมั่นใจของคุณ ด้วยการออกแบบให้ติดแน่น แข็งแรง และดูสวยงามเสมือนฟันธรรมชาติ

ไม่ว่าคุณจะเคี้ยวอาหารที่ชอบ พูดคุย หรือยิ้มกว้าง รากฟันเทียมช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นและสบายใจเหมือนเดิม
ปรึกษาฟรี! แอดเลย
รู้จักรากเทียม
รากฟันเทียมคืออะไร?
รากฟันเทียม (Dental Implant) เป็นการใส่รากฟันที่ทำจากไทเทเนียมลงในกระดูกขากรรไกร เพื่อใช้แทนรากฟันธรรมชาติ หลังจากนั้นจะครอบด้วยฟันเทียมที่ออกแบบให้เหมือนฟันจริงในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง สี หรือการใช้งาน
ทำไมรากฟันเทียมถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด?
- ติดแน่นและมั่นคง
รากฟันเทียมฝังแน่นในกระดูกขากรรไกร ทำให้คุณมั่นใจในการเคี้ยวอาหารได้เหมือนฟันแท้
- สวยงามเหมือนฟันจริง
ฟันเทียมที่ใส่บนรากเทียมได้รับการออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้สีและรูปร่างกลมกลืนกับฟันธรรมชาติของคุณ
- ช่วยรักษากระดูกขากรรไกร
เมื่อคุณสูญเสียฟัน กระดูกขากรรไกรอาจยุบตัวลง แต่รากฟันเทียมช่วยกระตุ้นการทำงานของกระดูก ทำให้กระดูกยังคงแข็งแรง
- ไม่มีผลกระทบต่อฟันข้างเคียง
ต่างจากสะพานฟันที่อาจต้องกรอฟันข้างเคียง รากฟันเทียมไม่ทำลายฟันธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ
- ใช้งานได้ยาวนาน
ด้วยการดูแลอย่างเหมาะสม รากฟันเทียมสามารถใช้งานได้ยาวนานนับสิบปี
ขั้นตอนการใส่รากฟันเทียมที่คลินิกของเรา
- ตรวจประเมินโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เราจะเริ่มด้วยการตรวจสุขภาพช่องปากและกระดูกขากรรไกรอย่างละเอียด ด้วยเทคโนโลยี 3D Scan
- วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ทันตแพทย์จะออกแบบรากฟันเทียมและฟันที่เหมาะสมที่สุดกับโครงสร้างของคุณ
- ฝังรากเทียมลงในกระดูกขากรรไกร ขั้นตอนนี้ดำเนินการด้วยความแม่นยำและปลอดภัย พร้อมการใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อความสะดวกสบาย
- ใส่ฟันเทียมแบบติดแน่น หลังจากรากฟันเทียมเชื่อมติดกับกระดูกอย่างสมบูรณ์ เราจะครอบฟันเทียมที่ดูเหมือนฟันจริง เพื่อให้คุณกลับมามีฟันที่ใช้งานได้เต็มที่
การดูแลหลังการใส่รากฟันเทียม: เคล็ดลับเพื่อรากฟันแข็งแรงและใช้งานได้ยาวนาน
หลังการใส่รากฟันเทียม การดูแลรักษาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้รากฟันเทียมคงทนและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
1. การดูแลในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
พักผ่อนให้เพียงพอ: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมากในช่วงแรก
หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำการรักษา: อย่าใช้ลิ้นดุนหรือสัมผัสรากฟันเทียม
รับประทานอาหารอ่อน: เช่น ซุป โจ๊ก หรืออาหารที่ไม่ต้องเคี้ยวหนัก เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน
ประคบเย็น: หากมีอาการบวม ให้ประคบเย็นบริเวณแก้มข้างที่ทำการรักษาในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
ประคบร้อน: หลังผ่านไป 24 ชั่วโมง บริเวณที่ทำการรักษาเป็นสีเขียว ให้ทำการประคบร้อนจะช่วยให้อาการบวมลดลงได้
2. การทำความสะอาดช่องปาก
เริ่มแปรงฟันตามปกติ: แต่อย่ากดแรงหรือสัมผัสตรงบริเวณที่ใส่รากฟันเทียมในช่วงแรก
ใช้น้ำยาบ้วนปาก: ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
ไหมขัดฟัน: ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันแบบพิเศษเพื่อทำความสะอาดบริเวณรากฟันเทียม
3. การรับประทานอาหาร
หลีกเลี่ยงของแข็งและเหนียว: เช่น น้ำแข็ง ลูกอม หรืออาหารที่ต้องออกแรงเคี้ยวในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก
งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: เพราะอาจชะลอการฟื้นตัวของแผลและเพิ่มความเสี่ยงต่อการล้มเหลวของรากฟันเทียม ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุทำให้รากเทียมล้มเหลวและหลุดออก
4.การติดตามผลกับทันตแพทย์
การนัดตรวจติดตาม: มาพบทันตแพทย์ตามนัดหมายเพื่อประเมินความสมบูรณ์ของรากฟันเทียม
การตรวจสุขภาพช่องปาก: ควรพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพโดยรวมและทำความสะอาดฟัน
5. การดูแลในระยะยาว
รักษาความสะอาดช่องปากอย่างต่อเนื่อง: แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟัน และใช้น้ำยาบ้วนปาก
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้รากฟันเสียหาย: เช่น การใช้ฟันกัดสิ่งของแข็ง
รากฟันเทียมไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูฟันที่หายไป แต่ยังคืนความมั่นใจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้คุณอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะเคี้ยวอาหารอย่างสบายใจ หรือยิ้มอย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ รากฟันเทียมคือคำตอบที่ครบครันทั้งในด้านความสวยงามและความแข็งแรง
หากคุณกำลังมองหาทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพฟันที่ยั่งยืนและเปี่ยมด้วยความมั่นใจ อย่ารอช้า ปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญวันนี้ เพื่อก้าวสู่รอยยิ้มที่มั่นใจยิ่งกว่าที่เคย ติดต่อเรา
ปรึกษาฟรี! แอดเลย
บทความ
ประกันสังคมเบิกตรงไม่ต้องสำรองจ่าย เดินทางสะดวก ใกล้ BTS อุดมสุข