รักษารากฟัน ป้องกันฟันติดเชื้อก่อนปัญหาจะลุกลาม
ปวดฟันเรื้อรัง เหงือกบวมมีตุ่มหนอง หรือเสียวฟันจนกินอะไรไม่อร่อย อาจเป็นสัญญาณว่าฟันของคุณติดเชื้อ! หากปล่อยไว้นานเกินไป การติดเชื้ออาจลุกลามจนทำลายเนื้อฟัน รากฟัน และอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียฟันซี่นั้นไป

โดยการรักษารากฟัน (Root Canal Treatment) เป็นกระบวนการสำคัญสำหรับการช่วยรักษาฟันที่มีการติดเชื้อหรือเนื้อเยื่อในโพรงฟันอักเสบ ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามจนต้องถอนฟันออกไป กระบวนการนี้ช่วยเก็บฟันแท้ของคุณไว้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
- ฟันติดเชื้อและฟันผุ สาเหตุที่ควรรีบรักษารากฟัน
- กระบวนการรักษารากฟัน วิธีการที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ
- ทำไมการรักษารากฟันจึงดีกว่าการถอนฟัน?
- อาการฟันติดเชื้อ เมื่อไหร่ที่คุณควรพิจารณาการรักษารากฟัน?
- การรักษารากฟันไม่ได้น่ากลัว รักษาที่ปลอดภัยกับทันตแพทย์ และไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
- ฟื้นฟูสุขภาพฟัน การดูแลฟันหลังการรักษารากฟัน
- สรุป การรักษารากฟันช่วยให้ฟันธรรมชาติของคุณอยู่ได้นาน
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการ รักษารากฟัน
ฟันติดเชื้อและฟันผุ สาเหตุที่ควรรีบรักษารากฟัน
ฟันผุที่ลุกลามหรือฟันติดเชื้อไม่ได้ส่งผลแค่ความเจ็บปวด แต่ยังอาจทำลายสุขภาพฟันทั้งซี่ได้ หากเชื้อโรคแทรกซึมลึกถึงโพรงประสาทฟันและรากฟัน จะทำให้เกิดการอักเสบ บวม และปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น
สาเหตุที่ต้องรักษารากฟัน
-
ฟันผุที่ลึกจนถึงโพรงประสาทฟัน
-
ฟันแตกหรือร้าวจนเชื้อโรคเข้าไปในโพรงฟัน
-
การบาดเจ็บที่ฟันจนทำให้ประสาทฟันเสียหาย
-
การติดเชื้อบริเวณปลายรากฟัน
ปรึกษาฟรี! แอดเลย
กระบวนการรักษารากฟัน วิธีการที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ
ด้วยเทคโนโลยีทางทันตกรรมที่ก้าวหน้า การรักษารากฟันจึงไม่ซับซ้อนและไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ทันตแพทย์จะดูแลทุกขั้นตอนอย่างใส่ใจ เพื่อให้คุณกลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจโดยไม่มีอาการเจ็บปวด
ขั้นตอนการรักษารากฟัน
1. การตรวจและวินิจฉัย
ทันตแพทย์จะทำการตรวจฟันและเอกซเรย์เพื่อประเมินความเสียหายของฟันและรากฟัน

2. การกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อ
ทันตแพทย์จะเปิดช่องเล็ก ๆ บนฟันเพื่อนำเนื้อเยื่อในโพรงฟันและเชื้อโรคออก

3. การทำความสะอาดและอุดรากฟัน
หลังจากกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อ ทันตแพทย์จะทำความสะอาดโพรงฟันและรากฟัน จากนั้นจะอุดรากฟันด้วยวัสดุเฉพาะเพื่อป้องกันการติดเชื้อในอนาคต
4. การครอบฟัน (ถ้าจำเป็น)
ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันมักจะต้องได้รับการครอบฟันเพื่อเสริมความแข็งแรง
ทำไมการรักษารากฟันจึงดีกว่าการถอนฟัน?
1. การเก็บรักษาฟันแท้
- การใช้งานฟันเดิมได้ตามปกติ: ฟันแท้ของเรามีโครงสร้างที่แข็งแรงและเหมาะสมกับตำแหน่งในช่องปาก หากฟันถูกถอนออก การทำงานของฟันในบริเวณนั้นอาจลดลง แม้จะใส่ฟันปลอมหรือรากเทียม แต่ฟันแท้ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีกว่าในระยะยาว
- การคงความเป็นธรรมชาติของการบดเคี้ยว: การถอนฟันอาจทำให้แรงกัดหรือการบดเคี้ยวเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจส่งผลต่อฟันซี่อื่น ๆ หรือข้อต่อขากรรไกรในอนาคต
2. การป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะยาว
- ลดความเสี่ยงของฟันล้มและการเคลื่อนตัว: เมื่อฟันถูกถอนออก ช่องว่างที่เกิดขึ้นอาจทำให้ฟันข้างเคียงล้ม หรือเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง ส่งผลต่อการเรียงตัวของฟัน
- ป้องกันการสูญเสียกระดูกขากรรไกร: การถอนฟันทำให้กระดูกขากรรไกรบริเวณนั้นเสื่อมลงเร็วขึ้น เนื่องจากไม่มีรากฟันกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก
- ลดปัญหาในการใส่ฟันปลอม: ฟันปลอมอาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย และต้องการการดูแลเพิ่มเติม
3. ความสะดวกและค่าใช้จ่ายในระยะยาว
- ลดค่าใช้จ่ายในอนาคต: การรักษารากฟันอาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงกว่าการถอนฟัน แต่การถอนฟันมักต้องมีการใส่ฟันปลอมหรือรากฟันเทียมเพิ่มเติม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องบำรุงรักษา
- ลดความยุ่งยากในการดูแล: การดูแลฟันแท้หลังการรักษารากฟันเป็นเรื่องง่ายเหมือนการดูแลฟันทั่วไป ต่างจากฟันปลอมหรือรากเทียมที่ต้องการการดูแลเฉพาะทาง
4. สุขภาพจิตและความมั่นใจ
- รูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติ: ฟันแท้ให้ความเป็นธรรมชาติทั้งในด้านรูปลักษณ์และการใช้งาน ต่างจากฟันปลอมที่อาจดูไม่เหมือนฟันจริงทั้งหมด
- เสริมความมั่นใจ: การเก็บฟันแท้ช่วยรักษารอยยิ้มและการพูดที่เป็นธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
5. ส่งเสริมสุขภาพช่องปากโดยรวม
- ลดความเสี่ยงของปัญหาต่อเนื่อง: การถอนฟันอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณแผล หรือการสูญเสียฟันซี่ข้างเคียงในอนาคต
- รักษาสมดุลของช่องปาก: ฟันทุกซี่มีบทบาทในโครงสร้างของช่องปาก การเก็บรักษาฟันไว้ช่วยให้ระบบการทำงานของช่องปากทำงานได้อย่างสมดุล
อาการฟันติดเชื้อ เมื่อไหร่ที่คุณควรพิจารณาการรักษารากฟัน?
อาการที่ควรสังเกต
หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที:
-
ปวดฟันรุนแรง โดยเฉพาะเวลากัดหรือเคี้ยว
-
มีหนองหรือบวมบริเวณเหงือก
-
ฟันเปลี่ยนสีเป็นสีเทาหรือดำ
-
เสียวฟันมากเมื่อสัมผัสของร้อนหรือเย็น
การรักษารากฟันไม่ได้น่ากลัว รักษาที่ปลอดภัยกับทันตแพทย์ และไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
ที่คลินิกทันตกรรมเปปเปอร์มินต์ เราเข้าใจว่าหลายคนอาจรู้สึกกังวลเมื่อต้องเข้ารับการรักษารากฟัน แต่คุณสามารถวางใจได้ว่า คุณจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทันตแพทย์เฉพาะทางรักษารากฟัน พร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ที่จะช่วยให้กาารรักษาได้ผลที่สมบูรณ์แบบ ในเวลารวดเร็ว ลดอาการแทรกซ้อนหลังรับการรักษา ให้คุณวางใจกับการรักษารากฟันที่คลินิกของเรา
1. ทำไมการรักษารากฟันจึงไม่น่ากลัวอย่างที่คิด?
- การใช้ยาชาเพื่อความสบาย
ระหว่างขั้นตอนการรักษา เราจะใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย โดยคุณจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บระหว่างทำ หากมีความรู้สึกไม่สบายใด ๆ ทีมงานของเราจะช่วยปรับให้คุณสบายที่สุด - เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
คลินิกของเรามีอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำ เช่น เครื่องวัดความยากรากฟันดิจิตอลและเครื่องมือทำความสะอาดรากฟันเฉพาะทาง ซึ่งทำให้การรักษารวดเร็วและมีประสิทธิภาพ - บรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย
เราออกแบบห้องรักษาให้มีบรรยากาศสบาย ๆ เป็นส่วนตัว เพื่อช่วยลดความกังวล พร้อมด้วยทีมงานที่พร้อมดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบ
2. ประสบการณ์จากทันตแพทย์มืออาชีพของเรา
- ทพญ.ช่อแก้ว สามัคคีธรรม ทันตแพทย์ประจำคลินิกเฉพาะทางรักษารากฟัน
- ทันตแพทย์ศาสตร์บัณฑิตมหาวิทยาลัยมหิดล
- ประกาศนียบัตรวิทยาเอนโดดอนท์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีคุณวุฒิ และ มีประสบการณ์ เข้าใจถึงความซับซ้อนในการรักษาที่แตกต่างกันแต่ละบุคคล
รักษารากฟันที่คลินิกทันตกรรมเปปเปอร์มินต์ ทำไมต้องเลือกคลินิกของเรา?
รักษาด้วยเครื่องมือทันสมัย วัสดุทันตกรรมเกรดพรีเมี่ยม นำเข้าด้วยบริษัททันตกรรมชั้นนำ
ทีมทันตแพทย์มืออาชีพและเอาใจใส่ ดูแลทุกขั้นตอน
สภาพแวดล้อมที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน
เจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตทุกขั้นตอน สามารถทักแชท โทรสอบถามได้ตลอด
ราคาสมเหตุสมผลและแบ่งจ่ายได้
อย่าปล่อยให้ปัญหารากฟันเป็นหนอง บวมลุกลาม!สามารถรับคำปรึกษา นัดหมาย ได้ที่นี่
การรักษารากฟันไม่ได้น่ากลัว วางใจได้กับทันตแพทย์เฉพาะทางที่คลินิกเรา
การดูแลในช่วงแรกหลังการรักษา
1. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว
ฟันที่ได้รับการรักษารากฟันอาจยังไม่แข็งแรงเต็มที่ในช่วงแรก หากยังไม่ได้ครอบฟัน ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง เช่น น้ำแข็ง ลูกอม หรือของเหนียว เช่น หมากฝรั่ง เพื่อป้องกันฟันแตกหรือเสียหาย
2. การเข้าพบทันตแพทย์ตามนัด
หลังจากการรักษา ทันตแพทย์จะนัดตรวจติดตามผลเพื่อประเมินการฟื้นตัวของฟัน รวมถึงตรวจสอบว่ามีการติดเชื้อหรือปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นหรือไม่
3. การครอบฟัน
หากฟันที่รักษาอ่อนแอหรือมีโอกาสแตกง่าย ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ครอบฟัน เพื่อเสริมความแข็งแรงและปกป้องฟันในระยะยาว
การทำความสะอาดช่องปากอย่างเหมาะสม
1. ใช้ไหมขัดฟัน
ทำความสะอาดซอกฟันเป็นประจำเพื่อป้องกันเศษอาหารตกค้างและลดโอกาสการเกิดฟันผุบริเวณใกล้เคียง
2. น้ำยาบ้วนปาก
ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ช่วยลดแบคทีเรียและเสริมความสะอาดของช่องปาก
สรุป การรักษารากฟันช่วยให้ฟันธรรมชาติของคุณอยู่ได้นาน
อย่าปล่อยให้ฟันที่มีปัญหาต้องถูกถอนออก – รักษารากฟันเพื่ออนาคตของฟันที่แข็งแรง
การดูแลฟันแท้ของคุณคือการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพช่องปากในระยะยาว หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาฟันผุหรือติดเชื้อ อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจถอนฟัน เพราะการรักษารากฟันสามารถช่วยให้ฟันแท้ของคุณกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
ทำไมคุณควรเลือกการรักษารากฟันแทนการถอนฟัน?
-
รักษาฟันแท้ไว้ใช้งาน
การเก็บฟันแท้ไว้ช่วยให้คุณสามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทานอาหารได้ความรู้สึกดีกว่าเคี้ยวด้วยฟันปลอม และยังช่วยรักษาโครงสร้างของฟันและขากรรไกรให้สมดุล -
ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การถอนฟันอาจนำไปสู่ปัญหาฟันล้ม การเคลื่อนตัวของฟันข้างเคียง และการสูญเสียกระดูกขากรรไกร ซึ่งอาจทำให้คุณต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากขึ้นในระยะยาว -
คงรูปลักษณ์และความมั่นใจ
ฟันแท้ช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ การรักษารากฟันช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องช่องว่างที่เกิดจากการถอนฟัน -
ลดความซับซ้อนของการดูแลฟันในอนาคต
การใส่ฟันปลอมหรือรากเทียมอาจต้องการการดูแลที่มากขึ้น ในขณะที่การรักษารากฟันทำให้คุณสามารถดูแลฟันได้เหมือนเดิม
การรักษารากฟันไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
ที่คลินิกของเรา เราเข้าใจความกังวลของคุณ และเราพร้อมช่วยให้คุณสบายใจในทุกขั้นตอน:
-
การใช้ยาชาเฉพาะที่: ช่วยให้คุณรู้สึกสบายระหว่างการรักษา
-
เทคโนโลยีทันสมัย: เพิ่มความแม่นยำและลดระยะเวลาการรักษา
ทันตแพทย์เฉพาะทาง: เรามีทีมทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิด
การดูแลฟันของคุณคือการดูแลสุขภาพโดยรวมของคุณ
ฟันแต่ละซี่มีบทบาทสำคัญในโครงสร้างของช่องปาก การเก็บรักษาฟันแท้ช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น โรคเหงือกหรือการสูญเสียฟันซี่ข้างเคียง
การรักษารากฟันไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาฟันที่ติดเชื้อ แต่เป็นการรักษาความสมดุลของช่องปาก รอยยิ้มที่มั่นใจ และคุณภาพชีวิตที่ดี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการ รักษารากฟัน
- รักษารากฟัน เจ็บไหม
การรักษารากฟันในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด เนื่องจากทันตแพทย์จะใช้ ยาชาเฉพาะที่ เพื่อช่วยให้คุณรู้สึกสบายในระหว่างการรักษา อาจมีความรู้สึกตึงเล็กน้อยหรือไม่สบายในช่วงแรก แต่จะไม่เจ็บอย่างที่หลายคนกังวล
- รักษารากฟัน นานแค่ไหน
การรักษารากฟันมักใช้เวลาประมาณ 1-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของกรณี โดยแต่ละครั้งอาจใช้เวลา 45-90 นาที ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำที่เหมาะสมและแจ้งตารางเวลาการรักษาล่วงหน้า สอบถามรายละเอียด ที่นี่
- ค่าใช้จ่ายในการรักษารากฟันเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับตำแหน่งของฟันและความซับซ้อนของกรณี โดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ
- ฟันหน้า: 6,000 – 8,000 บาท
- ฟันกรามน้อย: 8,000 -10,000 บาท
- ฟันกราม 13,000-15,000 บาท
ราคานี้ไม่รวมการครอบฟันหลังการรักษา ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับฟัน
- รักษารากฟัน แต่ไม่ครอบฟัน
แม้ว่าการรักษารากฟันจะช่วยกำจัดการติดเชื้อในฟัน แต่ฟันที่ผ่านการรักษารากมักจะอ่อนแอลงเนื้อฟันเสียหายมาก และมีโอกาสแตกได้ง่าย การ ครอบฟัน เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและยืดอายุการใช้งานของฟัน หากไม่ครอบฟัน อาจเสี่ยงต่อการแตกหรือเสียหายเพิ่มเติม
- รักษารากฟันแล้ว มีโอกาสเกิดฟันผุ ถึงรากฟันอีกหรือไม่
ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันจะไม่มีเส้นประสาท จึงไม่สามารถรู้สึกถึงอาการปวดฟันได้อีก อย่างไรก็ตาม ฟันซี่นั้นยังสามารถผุได้ หากไม่ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม การแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน และการพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- รักษารากฟัน เบิกประกันสังคมได้หรือไม่
ปัจจุบันประกันสังคมครอบคลุมการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด แต่ยังไม่ครอบคลุมการรักษารากฟัน อย่างไรก็ตาม คุณสามารถตรวจสอบสิทธิ์เพิ่มเติมหรือใช้สิทธิ์จากกรมธรรม์ประกันสุขภาพเอกชนที่ครอบคลุมค่ารักษาฟันแทน
ปรึกษาฟรี! แอดเลย
บทความ
ประกันสังคมเบิกตรงไม่ต้องสำรองจ่าย เดินทางสะดวก ใกล้ BTS อุดมสุข