ผ่าฟันคุด ฟันฝัง ขั้นตอน และเรื่องควรรู้ก่อนการผ่าตัด
การผ่าฟันคุด ฟันฝัง (Wisdom tooth surgical removal) เป็นการรักษาเพื่อแก้ปัญหาฟันที่ไม่สามารถงอกขึ้นมาในตำแหน่งปกติได้ หรือฟันที่งอกในลักษณะที่อาจส่งผลกระทบต่อฟันข้างเคียงและสุขภาพช่องปากโดยรวม

ฟันคุดคืออะไร?
ฟันคุด (Impacted Tooth) คือฟันที่ไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติ เนื่องจากติดอยู่ในกระดูกขากรรไกรหรือเนื้อเยื่อรอบๆ โดยฟันคุดมักเกิดกับ ฟันกรามซี่สุดท้าย ซึ่งเป็นฟันที่อยู่ด้านในสุดของปาก และมักเริ่มขึ้นในช่วงวัยรุ่นตอนปลายหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
สาเหตุที่ทำให้เกิดฟันคุด
-
พื้นที่ในขากรรไกรไม่เพียงพอ
ฟันไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะขึ้นมาได้เต็มที่ -
การเรียงตัวผิดปกติของฟัน
ฟันอาจเอียงหรือหมุนผิดตำแหน่ง ทำให้ฟันข้างเคียงบังทางขึ้น -
ลักษณะโครงสร้างขากรรไกรของแต่ละบุคคล
บางคนมีขากรรไกรเล็ก หรือฟันใหญ่เกินไป
ประเภทของฟันคุด
ฟันคุดสามารถแบ่งตามลักษณะการเอียงของฟันได้ เช่น
-
ฟันคุดเอียงไปด้านหน้า (Mesioangular Impaction): เอียงไปหาฟันซี่หน้า
-
ฟันคุดเอียงไปด้านหลัง (Distoangular Impaction): เอียงไปหาฟันซี่หลัง
-
ฟันคุดตั้งตรง (Vertical Impaction): อยู่ในแนวตรง แต่ไม่สามารถโผล่พ้นเหงือกได้
-
ฟันคุดนอนราบ (Horizontal Impaction): นอนราบขนานกับขากรรไกร
ขั้นตอนการผ่าฟันคุด:
-
การวินิจฉัย: ทันตแพทย์จะตรวจฟันและทำการเอ็กซ์เรย์เพื่อดูตำแหน่งของฟันคุดและประเมินความยากง่ายในการผ่าตัด
ปรึกษาฟรี! แอดเลย
- การเตรียมตัวก่อนผ่าฟัน:
- จะได้รับการให้ยาชาเฉพาะที่การผ่าฟันคุด
- ทันตแพทย์จะทำการเปิดเหงือกเพื่อเข้าถึงฟันที่ซ่อนอยู่
- ถ้าฟันคุดมีรากลึกหรืออยู่ในตำแหน่งยาก ทันตแพทย์อาจต้องแบ่งฟันออกเป็นชิ้นๆ เพื่อเอาออก
- การเยียวยาหลังผ่าตัด:
- จะต้องดูแลแผลให้สะอาด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ในการรับประทานยาเพื่อลดอาการเจ็บปวดและอักเสบ
- ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ และการทำกิจกรรมที่อาจทำให้แผลติดเชื้อในช่วงแรก
ฟันฝัง คืออะไร?
ฟันฝัง (Impacted tooth) หมายถึง ฟันที่ไม่สามารถขึ้นมาจากเหงือกได้อย่างปกติ เนื่องจากมีสิ่งกีดขวาง เช่น ฟันซี่ข้างเคียง กระดูก หรือเนื้อเยื่อเหงือก โดยฟันฝังมักพบได้บ่อยในฟันกรามซี่สุดท้าย (ฟันคุด) และฟันเขี้ยว
สาเหตุของฟันฝัง
-
พื้นที่ในขากรรไกรไม่พอ: ฟันไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะขึ้นมาได้
-
ทิศทางการงอกผิดปกติ: ฟันอาจงอกในทิศทางที่เอียงหรือไม่ปกติ
-
สิ่งกีดขวาง: กระดูก ฟันซี่ข้างเคียง หรือเนื้อเยื่อเหงือกอาจขวางทางการขึ้นของฟัน
-
กรรมพันธุ์: มีประวัติครอบครัวที่สมาชิกมีปัญหาเกี่ยวกับฟันฝัง
ผลกระทบของฟันฝัง
-
อาจทำให้เกิด อาการปวดหรือบวม ในบริเวณเหงือก
-
ก่อให้เกิดการ ติดเชื้อ หรือ เหงือกอักเสบ
-
ส่งผลต่อ การเรียงตัวของฟัน ทำให้ฟันซี่ข้างเคียงเคลื่อนตัว
-
อาจทำให้เกิด ถุงน้ำ (Cyst) หรือ เนื้องอก (Tumor) ในบางกรณี
การรักษา
-
การเอ็กซ์เรย์: เพื่อตรวจสอบตำแหน่งและลักษณะของฟันฝัง
-
การถอนฟัน: หากฟันฝังส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก ทันตแพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดหรือถอนฟันออก
การจัดฟัน: ในบางกรณี โดยเฉพาะฟันเขี้ยวที่ฝัง อาจใช้วิธีดึงฟันขึ้นมาบนแนวเหงือกและจัดเรียงฟันให้เรียบร้อย
ทำไมต้องผ่าฟันคุด และฟันฝัง?
1. ทำไมต้องผ่าฟันคุด?
ฟันคุดคือฟันกรามที่ขึ้นมาช้าและมักจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ปกติ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องผ่าตัด:
-
ฟันคุดไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติ: ฟันคุดบางครั้งอาจไม่สามารถขึ้นมาได้เต็มที่ ทำให้มันฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือความเจ็บปวด
-
ฟันคุดที่ขึ้นในทิศทางที่ไม่เหมาะสม: ฟันคุดที่ขึ้นไปในมุมไม่ถูกต้องอาจเบียดฟันข้างเคียง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดและทำให้ฟันข้างเคียงเคลื่อนที่
-
การสะสมของเศษอาหาร: ฟันคุดที่อยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงยากอาจทำให้เกิดการสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเหงือกและฟันผุ
-
การเกิดซีสต์หรือถุงน้ำ: ฟันคุดที่ไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดการสะสมของของเหลวในกระดูกขากรรไกร ซึ่งอาจสร้างซีสต์หรือถุงน้ำที่ทำลายเนื้อเยื่อรอบ ๆ
-
ฟันคุดที่ทำให้เหงือกอักเสบ: การมีฟันคุดอาจทำให้เหงือกบริเวณนั้นเกิดอาการอักเสบหรือบวม ส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก
2. การผ่าฟันฝัง (หรือการผ่าฟันคุดที่ฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร) เป็นการผ่าตัดที่ทำเมื่อฟันไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติ หรือเมื่อฟันคุดอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมและก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ การผ่าฟันฝังนั้นจำเป็นในกรณีต่าง ๆ ดังนี้:
1. ฟันฝังอยู่ลึกในกระดูกขากรรไกร
ฟันบางซี่ (โดยเฉพาะฟันกรามที่อยู่ด้านหลังสุด) อาจฝังลึกในกระดูกขากรรไกรและไม่สามารถขึ้นมาได้เองตามปกติ ซึ่งทำให้เกิดการสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรียที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อ การผ่าฟันฝังช่วยให้สามารถเอาฟันออกและรักษาอาการได้
2. ฟันฝังในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม
ฟันที่ฝังอยู่ในตำแหน่งไม่ถูกต้อง เช่น ฟันคุดที่ขึ้นในมุมที่เบียดฟันข้างเคียง อาจทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของฟันข้างเคียง หรืออาจทำให้เกิดฟันคุดที่เบียดและทำให้เหงือกเกิดการอักเสบ การผ่าฟันออกจะช่วยให้ช่องปากกลับมามีความสมดุลและลดปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากฟันที่ไม่ขึ้นตามปกติ
3. การสะสมของเศษอาหารและการติดเชื้อ
ฟันที่ฝังอยู่ในเหงือกอาจมีช่องว่างระหว่างฟันและเหงือกที่ทำให้เศษอาหารและแบคทีเรียสะสมได้ง่าย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเหงือก การติดเชื้อ หรือการบวมในช่องปาก การผ่าฟันออกสามารถป้องกันปัญหานี้และรักษาความสะอาดช่องปากได้ดีกว่า
4. การเกิดซีสต์หรือถุงน้ำ
ฟันที่ฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรสามารถสร้างซีสต์ (Cyst) หรือถุงน้ำรอบๆ ฟันได้ การฝังฟันสามารถทำให้เกิดความเสี่ยงในการทำลายกระดูกและเนื้อเยื่อรอบๆ ฟันได้ การผ่าฟันออกสามารถป้องกันการเกิดซีสต์และปัญหาที่อาจรุนแรงตามมา
5. การเกิดอาการเจ็บปวดหรืออักเสบ
ฟันที่ฝังอยู่ในเหงือกอาจทำให้เหงือกอักเสบ หรือทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเป็นระยะเวลานาน หากการอักเสบหรือปวดทวีความรุนแรง การผ่าฟันออกจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการรักษา
6. ป้องกันปัญหาฟันในอนาคต
ฟันที่ฝังหรือไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติอาจทำให้เกิดปัญหาฟันในอนาคต เช่น ฟันเบี้ยวหรือฟันล้ม การผ่าฟันออกอาจช่วยป้องกันปัญหาฟันที่ซับซ้อนในอนาคต เช่น การเคลื่อนที่ของฟันข้างเคียงหรือการเกิดฟันผุในพื้นที่ที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
ป้องกันการติดเชื้อ
ฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติหรือฟันคุดที่ฝังในเหงือกสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้:
1. การสะสมของแบคทีเรีย
ฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติ หรือฟันที่ฝังในเหงือกอาจทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันและเหงือก ซึ่งเป็นที่สะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย เมื่อแบคทีเรียสะสมในบริเวณนี้ จะสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่เหงือกหรือเนื้อเยื่อรอบๆ ฟันได้ การสะสมของแบคทีเรียในบริเวณฟันคุดอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือโรคเหงือกได้
2. การอักเสบของเหงือก (Pericoronitis)
ฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติ อาจทำให้เกิดการอักเสบที่เหงือกบริเวณฟันคุด หรือที่เรียกว่า “pericoronitis” ซึ่งเป็นอาการที่เหงือกรอบๆ ฟันคุดบวม แดง และอาจมีอาการเจ็บปวด การอักเสบนี้สามารถแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อรอบๆ ฟัน และทำให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงได้
3. การเกิดซีสต์ (Cyst) หรือถุงน้ำ
เมื่อฟันคุดฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรและไม่ได้ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ อาจทำให้เกิดการสะสมของของเหลวในบริเวณนั้น ซึ่งอาจสร้างซีสต์ (Cyst) หรือถุงน้ำที่ล้อมรอบฟันคุด ซีสต์เหล่านี้สามารถทำลายกระดูกและเนื้อเยื่อข้างเคียงได้ และทำให้เกิดการติดเชื้อรอบๆ ฟัน
4. การทำลายของกระดูกและเนื้อเยื่อ
ฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นมาได้อาจทำให้เกิดแรงกดทับหรือเบียดกับฟันข้างเคียง ส่งผลให้ฟันข้างเคียงเคลื่อนตัวหรือเกิดการบาดเจ็บที่เหงือกและกระดูกขากรรไกร ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบในพื้นที่ดังกล่าว
5. การติดเชื้อในกรณีที่ฝังลึก
ฟันคุดที่ฝังอยู่ลึกในกระดูกขากรรไกรอาจทำให้เข้าถึงได้ยากเมื่อทำความสะอาดช่องปาก ทำให้เศษอาหารและแบคทีเรียสะสมในบริเวณที่ฝังฟัน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฝังฟันและทำให้แผลไม่หายหรือบวม
6. การเกิดปัญหากับเหงือก (Gum Disease)
หากฟันคุดไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติหรือขึ้นมาในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เหงือกเกิดการระคายเคือง ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเหงือก (gingivitis) หรือโรคเหงือกขั้นรุนแรง (periodontitis) ซึ่งมีการติดเชื้อในเหงือกที่อาจกระจายไปยังเนื้อเยื่อรอบๆ ฟัน
7. การก่อตัวของหินปูน
ฟันคุดที่ขึ้นได้ไม่เต็มที่และเข้าถึงได้ยากมักทำให้เกิดการสะสมของหินปูนรอบๆ ฟัน ซึ่งสามารถทำให้เกิดการอักเสบในเหงือกและติดเชื้อในช่องปากได้
ป้องกันการเกิดถุงน้ำ
การเกิดซีสต์ (Cyst) หรือถุงน้ำ
เมื่อฟันคุดฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรและไม่ได้ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ อาจทำให้เกิดการสะสมของของเหลวในบริเวณนั้น ซึ่งอาจสร้างซีสต์ (Cyst) หรือถุงน้ำที่ล้อมรอบฟันคุด ซีสต์เหล่านี้สามารถทำลายกระดูกและเนื้อเยื่อข้างเคียงได้ และทำให้เกิดการติดเชื้อรอบๆ ฟัน
ป้องกันการเสียรูปของขากรรไกร
การเสียรูปของขากรรไกรสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การจัดฟันไม่ถูกต้อง, การติดเชื้อในฟันหรือขากรรไกร, หรือการมีฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติ
ฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติอาจทำให้ฟันข้างเคียงเคลื่อนตัว หรืออาจเกิดการเบียดกับฟันข้างเคียงจนทำให้ขากรรไกรเสียรูป การผ่าฟันคุดที่ฝังหรือไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติจะช่วยป้องกันปัญหานี้
ลดอาการปวด
อาการปวดฟันคุดเป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะเมื่อฟันคุดเริ่มขึ้นมาในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมหรือเมื่อฟันคุดไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติ ฟันคุดอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือความเจ็บปวดในเหงือกและขากรรไกรรอบๆ ฟัน ในบางกรณีอาจเกิดการติดเชื้อหรือการบวมที่ทำให้ปวดอย่างรุนแรง หากคุณประสบกับอาการปวดฟันคุด นี่คือสาเหตุที่อาจเป็นไปได้และวิธีการจัดการกับมัน:
สาเหตุที่ทำให้ปวดฟันคุด:
1. การขึ้นของฟันคุด
-
- ฟันคุดที่ขึ้นมาไม่สมบูรณ์หรือไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติจะทำให้เกิดแรงดันที่เหงือกบริเวณที่ฟันคุดขึ้น ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการปวดและบวมได้
2. การอักเสบของเหงือก (Pericoronitis)
-
- ฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นได้เต็มที่หรือที่ขึ้นมาในมุมแปลก ๆ อาจทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกรอบๆ ฟันคุด เป็นภาวะที่เรียกว่า pericoronitis ซึ่งทำให้เหงือกบวมและเจ็บปวด
3. การติดเชื้อ
-
- ฟันคุดที่ขึ้นได้ไม่สมบูรณ์หรือมีช่องว่างระหว่างฟันและเหงือกอาจทำให้เศษอาหารและแบคทีเรียสะสม ทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบในบริเวณฟันคุด ซึ่งอาจทำให้เจ็บปวดและบวม
4. การเบียดกับฟันข้างเคียง
-
- ฟันคุดที่ขึ้นในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมอาจเบียดกับฟันข้างเคียง ทำให้เกิดการเจ็บปวดและการเคลื่อนที่ของฟันข้างเคียง
5. การเกิดซีสต์หรือถุงน้ำ
-
- ในบางกรณี ฟันคุดที่ฝังลึกอาจทำให้เกิดซีสต์ (Cyst) หรือถุงน้ำรอบๆ ฟัน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและการบวมได้
วิธีการบรรเทาอาการปวดฟันคุด:
-
ใช้ยาบรรเทาปวด (Pain Relief)
-
การใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดจากฟันคุดได้ ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือปฏิบัติตามฉลากของยา
-
-
การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ
-
การบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆ (ผสมเกลือ 1/2 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 แก้ว) ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากและบรรเทาอาการบวมและการระคายเคือง
-
-
ประคบเย็น
-
การประคบเย็นที่บริเวณที่ปวดฟันคุดสามารถช่วยบรรเทาอาการบวมและลดการอักเสบได้
-
-
หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ปวด
-
หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่แข็งหรือร้อนเกินไป ซึ่งอาจทำให้เหงือกที่บวมและระคายเคืองอยู่แล้วเกิดอาการปวดเพิ่มขึ้น
-
-
การใช้ยาฆ่าเชื้อ (Antibiotics)
-
หากการติดเชื้อทำให้เกิดการปวดฟันคุดอย่างรุนแรง คุณอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำของทันตแพทย์เพื่อช่วยควบคุมการติดเชื้อ
-
ฟันคุดและฟันฝังคืออะไร ทำไมต้องผ่า?
ฟันคุด คือฟันที่ไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติ อาจเกิดจากอยู่ลึกเกินไปเหงือกหนาเกินไป ส่วนมากมักจะเกิดกับฟันซี่ในสุดหรือฟันกรามแท้ซี่ที่สาม เนื่องจากเป็นฟันซี่ที่งอกมาหลังสุดในช่องปากทำให้ฟันซี่อื่นแย่งพื้นที่ในขากรรไกรจนหมดทำให้พื้นที่ว่างในขากรรไกรไม่พอทำให้ไม่สามารถขึ้นมา เกิดเป็นฟันคุด อีกตำแหน่งที่เจอได้บ่อยบ่อยคือ บริเวณตำแหน่งของฟันเขี้ยว


ความแตกต่างระหว่างฟันคุดและฟันฝัง
โดยส่วนมากฟันคุดและฟันฝังจะหมายถึงฟันที่ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ในช่องปากแต่ความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ก็คือฟันคุดมักจะหมายถึงฟันกรามซี่ในสุดของช่องปากส่วนฟันฝังจะหมายถึงฟันฟันซี่อื่นๆที่ ฝังอยู่ในกระดูก ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ในช่องปาก
เหตุผลที่ต้องผ่าฟันคุดและฟันฝัง
- เพื่อป้องกันอาการปวดบวม โดยสาเหตุของอาการปวดหรือบวมเกิดจากสาเหตุได้หลายอย่างเช่นมีเศษอาหารติดบริเวณฟันและเหงือกที่ขึ้นมาได้บางส่วนทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและเกิดการอักเสบในที่สุดในบางรายอาจสามารถถ่ายได้เองโดยไม่ต้องทานยาปฏิชีวนะเพียงแค่ทำความสะอาดและแปรงฟันโดยอาจใช้ระยะเวลาห้าถึงเจ็ดวันในการหายในรายที่เป็นหนักขึ้นหรือมีโรคประจำตัวบางอย่างที่ทำให้สุขภาพไม่แข็งแรง นอกจากอาการปวดแล้วอาจมีอาการบวมร่วมด้วย ในกรณีนี้ทันตแพทย์อาจพิจารณาจ่าย ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย
- เพื่อป้องกันฟันข้างเคียงผุ
- เพื่อป้องกันการละลายตัวของกระดูก แรงดันจากฟันคุด
- เพื่อป้องกันการเกิดถุงน้ำ หรือเนื้องอก
- เพื่อป้องกันกระดูกขากรรไกรหัก เนื่องจากการที่มีฟันคุดฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรจะทำให้กระดูกขากรรไกรบริเวณนั้นบาง เสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย
ผลกระทบหากปล่อยไว้
การปล่อยฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติหรือฝังอยู่ในขากรรไกรอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างที่ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันในระยะยาว ซึ่งบางปัญหานั้นอาจรุนแรงและทำให้เกิดความเสียหายต่อฟันและขากรรไกรได้ นี่คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากปล่อยฟันคุดไว้:
1. การเกิดการติดเชื้อ
ฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติหรือฝังอยู่ในเหงือกอาจทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันและเหงือก ซึ่งสามารถสะสมเศษอาหารและแบคทีเรียได้ ทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบที่เหงือกรอบฟันคุด ซึ่งอาจทำให้เจ็บปวด บวม และมีอาการแสบแดง หากการติดเชื้อไม่ได้รับการรักษาอาจลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของช่องปากและทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงขึ้น
2. การเกิดซีสต์หรือถุงน้ำ
ฟันคุดที่ฝังในกระดูกขากรรไกรสามารถทำให้เกิดซีสต์ (Cyst) หรือถุงน้ำได้ ซึ่งจะทำให้กระดูกขากรรไกรและเนื้อเยื่อที่รอบๆ ฟันคุดเกิดความเสียหาย การเกิดซีสต์อาจทำให้ฟันที่อยู่ข้างเคียงเสียหายและเกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง นอกจากนี้ หากซีสต์ไม่ถูกจัดการให้ถูกต้อง อาจทำให้กระดูกเสียหายได้ในระยะยาว
3. การเคลื่อนที่ของฟันข้างเคียง
ฟันคุดที่ไม่สามารถขึ้นมาได้ตามปกติหรือฟันที่ฝังในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมสามารถเบียดฟันข้างเคียงทำให้ฟันเคลื่อนที่ไปในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ฟันเบี้ยวหรือเสียความสมดุลของการจัดเรียงฟันในช่องปาก การเคลื่อนที่ของฟันข้างเคียงอาจทำให้มีปัญหาในการทำความสะอาดฟัน ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดฟันผุหรือโรคเหงือก
4. การบาดเจ็บของเหงือกและขากรรไกร
ฟันคุดที่ขึ้นไม่เต็มที่หรือฝังอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดแรงกดทับที่เหงือกและขากรรไกร ซึ่งสามารถทำให้เกิดการอักเสบและการบาดเจ็บที่เหงือก รวมถึงทำให้ขากรรไกรเสียรูปหรือเกิดปัญหาในการเคลื่อนไหวของขากรรไกร
5. ปัญหาฟันผุ
ฟันคุดที่ฝังอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างเต็มที่ เช่น ฟันที่ขึ้นในมุมที่ไม่เหมาะสมหรือฟันที่ฝังใต้เหงือกอาจทำให้เกิดการสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย ซึ่งสามารถนำไปสู่การเกิดฟันผุ ฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เกิดการอักเสบและอาจต้องทำการรักษาที่ซับซ้อนในภายหลัง
6. ปัญหาการเคลื่อนที่ของขากรรไกร
การที่ฟันคุดเบียดฟันข้างเคียงหรือขึ้นไม่สมบูรณ์สามารถทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของขากรรไกร การเคลื่อนที่นี้อาจทำให้ขากรรไกรผิดรูปได้ ทำให้เกิดปัญหาความสมดุลในการบดเคี้ยว และส่งผลต่อการทำงานของขากรรไกรในระยะยาว
7. การเกิดอาการปวดเรื้อรัง
ฟันคุดที่ไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งสามารถทำให้คุณรู้สึกไม่สบายและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต หากฟันคุดมีการอักเสบหรือถูกกดทับจากฟันข้างเคียง อาการปวดอาจทวีความรุนแรงขึ้นในบางกรณี
ขั้นตอนการผ่าฟันคุดและฟันฝัง
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
1. ปรึกษาทันตแพทย์
ก่อนการผ่าตัดฟันคุด ทันตแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัย ทันตแพทย์อาจใช้การถ่ายภาพเอกซเรย์เพื่อดูตำแหน่งของฟันคุด ซักประวัติคนไข้ทั้งโรคประจำตัวและยาที่ทานเป็นประจำเพื่อ วางแผนการรักษา ให้เหมาะสมกับคนไข้ท่านนั้นๆ และวางแผนการผ่าตัดที่เหมาะสม
2. แจ้งประวัติสุขภาพ
หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง หรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulants) ควรแจ้งทันตแพทย์ให้ทราบ เพราะอาจมีผลต่อการวางแผนการผ่าตัดและยาที่ใช้
3. เตรียมพร้อมสำหรับการพักฟื้น
หลังการผ่าตัดฟันคุด คุณอาจรู้สึกเจ็บปวดและบวมบริเวณที่ผ่าตัด ดังนั้นควรเตรียมตัวในเรื่องของการพักฟื้น:
-
ยาแก้ปวด: ทันตแพทย์จะให้ยาบรรเทาปวด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน เพื่อบรรเทาอาการหลังการผ่าตัด
-
อาหารนิ่ม: หลังการผ่าตัด ควรกินอาหารที่นิ่มและไม่ร้อนเกินไป เช่น ซุป, โยเกิร์ต, พุดดิ้ง
4.การเตรียมจิตใจ
การผ่าตัดฟันคุดอาจทำให้บางคนรู้สึกวิตกกังวล ดังนั้นการทำความเข้าใจขั้นตอนและผลกระทบจากการผ่าตัดจะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ทันตแพทย์จะอธิบายทุกขั้นตอนและช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจมากขึ้น
ขั้นตอนการผ่าตัด
- หลังจากที่ทันตแพทย์ได้ทำการตรวจวินิจฉัยทราบประวัติของคนไข้แล้วจะเป็นขั้นตอนของการเตรียมช่องปากเพื่อรองรับการทำหัตถการต่อไปโดยท่านแรกผู้ป่วยจะได้รับการบ้วนปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนฉีดยาชา
- ฉีดยาชา
- ระหว่างการผ่าตัดผู้ป่วยจะรู้สึกเป็นแรงกดดันหรือรู้สึกสั่นสะเทือนบ้างหากมีอาการเจ็บหรือรู้สึกถึงความผิดปกติให้รีบยกมือบอกทันตแพทย์ข้อควรระวังก็คือไม่ควรนำมือมาปัดเครื่องมือหรือสะบัดหน้าหนีให้เพียงยกมือ ต่ำต่ำทันตแพทย์จะรีบหยุดหัตถการทันที
- กรณีเลือดออกมาก อาจมีการใส่วัสดุช่วยการแข็งตัวของเลือดร่วมกับการเย็บปิดแผล และปฏิบัติตัวตามข้อปฏิบัติตัวหลังถอนฟันข้างต้น
- บางกรณีหลังถอนฟันผู้ป่วยอาจได้รับยาปฏิชีวนะ ร่วมด้วย
- ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำและข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแล รักษาหลังการถอนฟันในทุกครั้งหลังถอนฟันเสร็จ
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
1.กัดผ้ากอซให้แน่นพอสมควรไว้ 2 ชั่วโมง แล้วคายผ้ากอซทิ้ง หากมีเลือดไหลออกมาอีกให้วางผ้ากอซใหม่ที่ให้ไปลงบนแผลแล้วกัดต่ออีก 1 ชั่วโมง ปกติอาจมีเลือดซึมออกจากแผลได้เล็กน้อย ในกรณีที่มีเลือดออกมากผิดปกติให้กลับมาพบทันตแพทย์ทันที
2. ในขณะกัดผ้ากอซควรกลืนน้ำลายและเลือด ไม่ควรบ้วนน้ำลายและเลือดเพราะอาจทำให้เลือดออกและหยุดช้าลง
3. อาการบวมหลังการผ่าตัดสามารถเกิดได้เป็นปกติ และจะเพิ่มขึ้นใน 2-3 วันแรก สามารถลดอาการบวมได้โดยใช้น้ำแข็งประคบนอกปากบริเวณที่ทำการรักษาเป็นเวลา48ชั่วโมงแรกหลังทำการผ่าตัด หลังจาก48ชั่วโมงเปลี่ยนเป็นประคบอุ่นโดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดพอหมาดแล้วประคบ
แต่ถ้ามีอาการบวมมาก และมีไข้สูงถือว่าเป็นอาการที่ผิดปกติ ให้รีบกลับมาพบทันตแพทย์
4. ในวันแรกสามารถแปรงฟันได้ แต่ไม่ควรกลั้วปากแรงและควรแปรงฟันบริเวณที่ผ่าตัดอย่างระมัดระวังอย่างเบาๆ
5. การบ้วนปากควรใช้น้ำเกลือ (น้ำ 1 แก้วผสมเกลือ 1 ช้อนชา) หรือบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก ที่ทันตแพทย์จ่ายให้เท่านั้น
6. ทานยาปฏิชีวนะตามที่ทันตแพทย์จ่ายให้จนครบ ส่วนยาแก้ปวดสามารถทานได้ตามที่ระบุไว้ในฉลากยาเมื่อมีอาการปวด
7. ห้ามแคะ หรือดูดแผลถอนฟัน และแผลผ่าตัด
8. ทำงานได้ตามปกติ งดออกกำลังกายหนักเกินควร
9. งดดื่มสุรา สูบบุหรี่ ทานอาหารอ่อน งดอาหารเผ็ดร้อนจัด ของหมักของดอง
10.หากได้รับการเย็บแผลไว้ให้กลับมาตัดไหมภายหลังการผ่าตัด 7 วัน หรือตามที่ทันตแพทย์นัด
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัด ฟันคุด และ ฝังฟัน รวมถึงวิธีดูแลหลังผ่าตัด ขยายความหัวข้อ
อาการบวม ปวด
ภาวะที่เกิดขึ้นได้บ่อยบ่อยหลังการผ่าฟันคุดฟันฝังหรือแม้กระทั่งการถอนฟันปกติก็คืออาการปวดบวมซึ่งถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากมีการกระทบกระเทือนเกิดขึ้นภาวะนี้จะเป็นมากในช่วงหนึ่งถึงสามวันแรกหลังจากวันที่สามอาการทั้งหมดจะค่อยค่อยลดลงแต่ถ้าหากมีอาการปวดบวมช้ำผิดปกติให้คนไข้รีบกลับมาพบทันตแพทย์
ทำอย่างไรเมื่อ เลือดออก
กัดผ้ากอซให้แน่นพอสมควรไว้ 2 ชัวโมง แล้วคายผ้ากอซทิ้ง หากมีเลือดไหลออกมาอีกให้วางผ้ากอซสำรองใหม่ที่ให้ไปลงบนแผลแล้วกัดต่ออีก 1 ชั่วโมง ปกติอาจมีเลือดซึมออกจากแผลได้เล็กน้อย ในกรณีที่มีเลือดออกมากผิดปกติให้กลับมาพบทันตแพทย์ทันที
การป้องกันติดเชื้อ
ทานยาปฏิชีวนะตามที่ทันตแพทย์จ่ายให้จนครบ ส่วนยาแก้ปวดสามารถทานได้ตามที่ระบุไว้ในฉลากยาเมื่อมีอาการปวด
การดูแลแผล
ในวันแรกสามารถแปรงฟันได้ แต่ไม่ควรกลั้วปากแรงและควรแปรงฟันบริเวณที่ผ่าตัดอย่างระมัดระวังอย่างเบาๆ
ห้ามแคะ หรือดูดแผลถอนฟัน และแผลผ่าตัด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การผ่าฟันคุด และฝังฟัน ขยายความหัวข้อ
-
ผ่าฟันคุดเจ็บไหม?
อาการปวด เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้บ่อยบ่อยหลังการผ่าฟันคุดฟันฝังหรือแม้กระทั่งการถอนฟันปกติก็คืออาการปวดบวมซึ่งถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากมีการกระทบกระเทือนเกิดขึ้นภาวะนี้จะเป็นมากในช่วงหนึ่งถึงสามวันแรกหลังจากวันที่สามอาการทั้งหมดจะค่อยค่อยลดลงแต่ถ้าหากมีอาการปวดบวมช้ำผิดปกติให้คนไข้รีบกลับมาพบทันตแพทย์
-
ใช้เวลานานแค่ไหนในการผ่า?
การผ่าฟันคุดโดยส่วนมากใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 60 นาทีขึ้นอยู่กับความยากง่ายของฟันซี่นั้นนั้น
-
ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
โดยส่วนมากผู้ป่วยจะมีอาการปวดบวมอยู่ประมาณสามวันหลังจากวันที่สามอาการทั้งหมดจะค่อยค่อยลดลงบางท่านสามารถทำงานได้ปกติแต่วันแรกหากคนไข้ไม่มั่นใจ แนะนำว่าควรมีเวลาพักประมาณหนึ่งถึงสองวัน
ปรึกษาฟรี! แอดเลย
บทความ
ประกันสังคมเบิกตรงไม่ต้องสำรองจ่าย เดินทางสะดวก ใกล้ BTS อุดมสุข